อัพเดตการเปลี่ยนแปลง LINE@ เป็น LINE OA โตหรือตาย
22 Aug, 2019 / By
aandrcospace
กระแส Line OA ที่กำลังมาแรง
เป็นกระแสอย่างมากตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค. ที่ผ่านมากับ กระแส Anti- LINE ที่มีการปรับเปลี่ยนเป็น LINE OA (LINE Officail Account) แล้วปรับราคา Package การ Broadcast ที่แต่ก่อนเป็นแบบ Unlimited เป็นไม่เกิน 10,000 ข้อความ (แต่ปรับเปลี่ยน Package เรียบร้อยแล้วจากกระแสนี้เป็น 30,000+ ข้อความ สำหรับ Package สูงสุด) ทำให้สำนักข่าวออนไลน์ ออกมาวิเคราะห์ว่าต้นทุนของธุรกิจที่ใช้ LINE@ หลังจากปรับเป็น LINE OA จะทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่า
ล่าสุดจากกระแสต่อต้านของหลายๆธุรกิจ ทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ ทำให้ LINE OA ที่จะเปิดตัวจริงๆ และบังคับให้ LINE@ ย้ายไป LINE OA ในเดือนส.ค. จำเป็นต้องเลื่อนออกไปเป็นเดือน ม.ค. ปีหน้า และปรับลดค่าใช้จ่ายของ Package LINE OA ลงมากกว่า 60% (ในตลาดประเทศไทย)
ฟีเจอร์โดนๆ จาก Line OA
ส่วนฟีเจอร์ใหม่ต่างๆ จาก Line@ ไปเป็น Line OA ที่น่าสนใจนั้นมีดังนี้:
1. one-on-one CHAT : ถือเป็นจุดเด่น จุดขาย ของ LINE OA เลยก็ว่าได้ เพราะสามารถตอบสนองพฤติกรรมลูกค้าคนไทย เรื่องการพูดคุยก่อนตัดสินใจซื้อ และขณะเดียวกันก็ทำให้แบรนด์สามารถตอบคำถามลูกค้าตาม Customize ของลูกค้าแต่ละคนได้ ซึ่งฟีเจอร์ย่อยนี้ ชื่อว่า Chat Tag ที่ร้านค้าสามารถระบุรายละเอียดเกี่ยวกับลูกค้าคนนั้นได้ ทำให้สะดวกในการระบุว่าลูกค้าคนนี้เป็นอย่างไร เพื่อนำเสนอสินค้าให้ตรงความต้องการ หรือการสร้าง NOTE ที่ช่วยให้ร้านค้าบันทึกข้อมูลของลูกค้าแต่ละคนได้แตกต่างกัน และมี Quick Reply เพื่อส่งข้อมูลอัตโนมัติได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
2. Timeline Post : แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ การโพสต์พร้อมกับการส่ง Broadcast ได้เลย หรือเลือกโพสต์เฉพาะ Timeline เท่านั้น
3. เป็น Highlight ที่สำคัญเลยก็ว่าได้ นั่นคือ LINE OA Plus สำหรับ E-Commerce ที่ช่วยให้ร้านค้าสามารถจัดการรายละเอียด ราคาสินค้าและบริหารจัดการคำสั่งซื้อสินค้าได้ดีขึ้น โดยใช้ระบบ Messenging API ที่ LINE พัฒนาใหม่ขึ้นมาจากการ LINE Re-design ในครั้งนี้ โดยสำหรับ OA Plus e-Commerce นี้ทาง LINE เปิดให้ใช้งาน API ที่ทีมงานพัฒนาขึ้นมาได้เลย พร้อมอำนวยความสะดวกในการติดตั้งให้อย่างละเอียด (ปกติ LINE API ต้องให้แบรนด์ต่างๆ พัฒนาขึ้นมาเอง และติดตั้งบน LINE OA ของตนเอง)
ฟีเจอร์ของ LINE OA Plus e-Commerce มี Dashboard แสดงตัวเลขที่เป็นประโยน์ต่อธุรกิจ เช่น รายได้ Transaction สถิติเกี่ยวกับวิธีการจ่ายเงิน สินค้าขายดี หรือวิธีจัดส่งที่ลูกค้านิยมใช้บริการ เป็นต้น ขณะเดียวกันก็ช่วยเชื่อมต่อประสบการณ์การใช้จ่ายของลูกค้าให้ง่ายขึ้นด้วย
ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ก็เป็นฟีเจอร์เดิมๆ ที่มีใช้ใน LINE@ อยู่แล้ว อาทิ Auto Reply, Coupon, Reward Card หรือ Survey รวมถึง Rich Content ที่แต่ก่อนใช้ได้เฉพาะ Package Basic, Pro ขึ้นไปเท่านั้น แต่ตอนนี้สามารถใช้งานได้ตั้งแต่ Free กันไปเลย
ความคิดเห็นส่วนตัวต่อ Line OA
ในส่วนตัว ผมว่า LINE OA มีจุดแข็งที่เหนือกว่า Platform อื่นคือ จำนวนผู้ใช้ง่ายที่่เยอะมาก ประมาณคนใช้ Smartphone ทุกคนต้องมี LINE ฉนั้นการตลาดบน LINE App ยังมีความสำคัญอยู่
แต่สำหรับฟีเจอร์ใหม่ของ LINE OA น่าจะเป็นฟังก์ชั่น LINE API ที่ให้ผู้พัฒนานำไปต่อยอดใช้งานต่อได้เอง แต่ข้อสังเกตคือ ผู้ประกอบการต้องหานักพัฒนาระบบ API มาพัฒนา API ของตนเอง
ส่วนฟีเจอร์ LINE OA Plus E-Commerce ก็เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดการระบบการสั่งซื้อของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ที่แต่ก่อนเราต้องจัดการออเดอร์ และเก็บข้อมูลการสั้งซื้อเอง เพราะ LINE@ ไม่สามารถเก็บข้อมูลลูกค้าได้ แต่ LINE OA Plus เข้ามาเติมเต็มในจุดนี้
ส่วนการ Broadcast ได้น้อยลงจากเดิมที่จ่ายแบบเหมาจ่าย Broadcast เท่าไหร่ก็ได้ มาเป็น Broadcast จำกัดจำนวน ถ้าเกินต้องจ่ายเพิ่ม ทำให้ทางร้านค้าต้องปรับเปลี่ยน กลยุทธ์กันใหม่ จากเดิมที่สามารถใช้ LINE เป็นเครื่องมือในรูปแบบ e-mail marketing ที่ทันสมัยขึ้น แต่ ณ ปัจจุบันอาจจะใช้ไม่ได้แล้ว
สุดท้าย กลุ่มผู้ประกอบการบ้างกลุ่มที่จำเป็นต้องใช้งาน Broadcast อาทิ บ.ท่องเที่ยว กรุ๊ปทัวร์ หรือสำนักข่าว อาจจะมีการย้าย Platform ไปสู่ Platform อื่นที่เปิดให้ใช้งาน Broadcast โดยเฉพาะอย่าง Telegram (mobile app/ website app ที่น่าสนใจอีกที่ เจาะจุดแข็งเรื่อง Broacast โดยเฉพาะกันเลย และที่สำคัญใช้งาน Free)