8 ข้อคิดพัฒนาตนของวอร์เรน บัฟเฟตต์

1. ลงทุนในความรู้

ดังคำพูดที่กล่าวไว้ว่า "ความรู้เป็นสิ่งไม่ตาย" มันคือทรัพย์อย่างหนึ่งของเราที่ไม่มีใครสามารถแย่งไปได้ หากเราต้องการจะเก่งในด้านใด เราก็ควรมั่นเอาความรู้มาใส่ตัวให้มากเข้าไว้ อย่างวอร์เรน บัฟเฟตต์ เริ่มลงทุนเมื่อตอนที่มีอายุได้ 25 ปี โดยในแต่ละวันเขาอ่านหนังสือเยอะมาก ซึ่งมันทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างที่เรารู้ๆ กัน

2. ทำการบ้านอยู่เสมอ

ทำการบ้านในที่นี้ไม่ได้หมายถึง "การบ้าน" ที่ได้จากอาจาร์ยในโรงเรียน แต่หมายถึงการหาข้อมูลให้ได้มากที่สุด เพื่อช่วยในการตัดสินใจทำอะไร เหมือนดังวอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่เขาจะศึกษาหาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง

3. ยอมรับในสิ่งที่คุณไม่รู้

หลายๆ คนด้วยความที่ไม่อยากเสียหน้า ก็อาจจะบอกว่าพวกเขารู้ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่รู้อะไรเลย และอาจจะไม่ได้มีความกระตือรือรนที่จะไปหาข้อมูลเพิ่มเติม แต่สำหรับวอร์เรน บัฟเฟตต์ เขาบอกตรงๆ เลยว่าไม่รู้ และไม่ลังเลที่จะไปค้นหาความจริงมา

4. ประหยัด

การประหยัดก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ควรจะต้องทำ อย่างวอร์เรน บัฟเฟตต์ ถึงแม่้เขาจะร่ำรวยแล้ว แต่เขาก็ยังประหยัดอยู่ เพราะเขาคิดอยู่เสมอว่าหากนำเงินก้อนเดียวกันนี้ แทนที่จะใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย เขาสามารถนำมันไปลงทุนแ และได้ผลตอบแทนที่มากกว่า

5. ยึดมั่นในหลักการ

การที่เราลงมือทำอะไรแล้ว เราควรจะยึดมั่นในสื่งที่ตนตั้งใจไว้แล้วแต่แรก ไม่ควรอ่อนไหวตามคนอื่นจนเกินไป ในส่วนของวอร์เรน บัฟเฟตต์ หลายครั้งที่พาร์ทเนอร์ของเขาเสนอวิธีการเก็งกำไรที่ดีกว่า แต่ตัวเขาเองยังยึดมั่นในหลักการของเขา และมีความมุ่งมั่นโดยไม่ต้องเดินตามใคร

6. พัฒนาตัวเอง

การพัฒนาตัวเอง แน่นอนเป็นสิ่งที่ดี ถึงแม้วอร์เรน บัฟเฟตต์ จะมีหลักการที่แน่วแน่ แต่เขาเองก็พร้อมที่จะพัฒนาตรงจุดนั้น แรับเปลี่ยนให้เหมาะสม และทำให้มันดีขึ้น

7. โฟกัส

การที่เรามีจุดโฟกัสในสิ่งที่ทำ จะทำให้เราประสบผลความสำเร็จได้มากกว่า ยกตัวอย่างจากวอร์เรน บัฟเฟตต์ คือเขาจะลงทุน 40% ในกองทุนเดียว แม้จะมีการกระจายความเสี่ยงลงทุนในกองทุนอื่นๆ บ้างเล็กน้อย แต่โฟกัส คือการลงทุนในส่วนหลัก เพราะเขามีความมั่นใจแล้วว่าผลลัพธ์จะออกมาดีอย่างแน่นอน

8. รู้ว่าเมื่อไหร่จะก้าวต่อ

เมื่อถึงเวลา เราก็ควรจะก้าวต่อไป ไม่ควรรู้สึกเสียดายเพระามันจะทำให้เราไม่ประสบความสำเร็จ ยกตัวอย่างของวอร์เรน บัฟเฟตต์ เขาตัดสินใจยุติการเป็นพาร์ทเนอร์เพราะว่าสถานะของตลาด และความสนใจส่วนตัวในปี 1970 และก้าวไปลงทุนอย่างอื่นแทน เมื่อถึงเวลาเราต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด

ที่มา: Smart SME